ร้านค้าที่ขึ้นชื่อ 1. ขนมจีนสันป่าข่อย ชามละ 20 บาท พิกัด สาขา 1 ตลาด ทอง คำ สันป่าข่อย, สาขา 2 ซอยข้างสุขศาลา เวลาเปิด-ปิด สาขา 1 16.00-04.00 น. หยุดวันอาทิตย์, สาขา 2 07.00-14.00 น. หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ โทรศัพท์ 089-1923023 2. น้ำเงี้ยวลุงพงษ์ จานละ 30 บาท พิกัด ถนนจ่าบ้าน หลังวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ใกล้กับ ร้านอาหาร เฮือนเพ็ญ เวลาเปิด-ปิด 09.30-14.00 น. ทุกวัน 3. ข้าวซอยแม่สาย จานละ 25 บาท พิกัด ถนนราชพฤกษ์ สันติธรรม เวลาเปิด-ปิด 08.00-16.00 น. หยุดวันอาทิตย์ โทรศัพท์ 053-213284 4. ขนมจีนป้าป้อม จานละ 20 บาท พิกัด หน้าวัดพันแหวน เวลาเปิด-ปิด 07.00-14.00 น. ทุกวัน โทรศัพท์ 053-814903 5. ขนมจีนป้าต่อมแก้ว ชามละ 25 บาท พิกัด ถนนสนามกีฬา ใกล้ๆกับสนามกีฬา เทศบาลนครเชียงใหม่ เวลาเปิด-ปิด 08.00-15.00 น. ทุกวัน โทรศัพท์ 053-413150 6. ขนมจีนท่าแพร้อยปี จานละ 20 บาท พิกัด ถนนช้างม่อยเก่า ซอย 2 เวลาเปิด-ปิด 08.00-15.30 น. หยุดวันอาทิตย์ โทรศัพท์ 053-252892 7. ขนมจีนหล่มเก่า หลังมอ ราคาชุดละ 35 บาท พิกัด ถนนสุเทพ ซอย 7 ประตูวิศวะฯ หลังมช. เวลาเปิด-ปิด 09.
บทความ
⏩รสนิยมการรับประทานขนมจีน⏪ เมื่อเรียงจับขนมจีนลงในจับแล้ว ผู้รับประทานจะราดน้ำยาลงไปบนเส้นขนมจีนให้ทั่ว น้ำยาขนมจีนนั้น มีลักษณะคล้ายน้ำแกง ไม่เหลวจนเกินไป ใช้ราดไปบนเส้นขนมจีนในจาน แต่ละท้องถิ่นจะมีน้ำยาแตกต่างกันไป เช่น น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำพริก แกงกะทิต่าง ๆ เช่น แกงเขียวหวาน น้ำเงี้ยว แกงไตปลา ซาวน้ำ สำหรับเด็กก็ยังมี น้ำยาหวานที่ไม่มีรสเผ็ดและมีส่วนผสมของถั่ว เป็นต้นใช้ช้อนตัดเส้นขนมจีนให้มีความยาวพอดีคำ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำยา บางท่านนิยมรับประทานขนมจีนกับน้ำปลา นอกจากน้ำยาแล้ว ยังมีเครื่องเคียงเป็นผักสดและผักดอง ตามรสนิยมในแต่ละท้องถิ่น เครื่องเคียงประเภททอด เช่น ทอดมัน ดอกไม้ทอด หรืออื่น ๆ ตามแต่ความชอบและความนิยมในแต่ละภาค 1.แกงเขียวหวาน 2.น้ำยาป่า 3.น้ำยากะทิ 4.แกงไตปลา 5.น้ำเงี้ยว
⏩ ที่มาของขนมจีน ⏪ ขนมจีน หรือ ขนมมอญ นับเป็นเรื่องที่น่าคิดเพราะตามที่ได้ยินมาใครๆ มักจะพูดว่า "ขนมจีน"ไม่น่าจะใช่อาหารของจีนอยู่ แล้วและบทความส่วนใหญ่ก็มักจะพูดถึงคำนี้อยู่เสมอว่าน่าจะมาจากภาษามอญ"ขนมจีน"น่าจะเป็นภาษา อะไรกันแน่ และคนมอญมีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมการทำหรือการกินขนมจีนแค่ไหน ชาวมอญ ทั่วไปนิยมรับประทานขนมจีนไม่เฉพาะแต่ในเทศกาลเท่านั้นในบางครั้งก็ยังมี การทำกินกันเองเป็นการรวมญาติหรือว่าเวลาวิดปลาขึ้นมาแล้วได้ปลาเยอะก็จะมีการทำน้ำยากินกัน คำว่า "ขนมจีน" มอญเรียกว่า "คนอม" เป็นกริยาแปลว่า ทำ,สร้าง(ในพจนานุกรมภาษามอญ-อังกฤษ ที่รวบรวมโดยR. Halliday ได้ให้ความหมายว่า "form") ส่วนคำว่า"จีน" ที่อยู่ข้างหลังคำว่า"ขนม"นั้นไม่มีใช้ในภาษามอญมีแต่คำว่า"จิน"ซึ่งแปลว่าสุก(จากการหุงต้ม) สิ่งที่น่าสังเกตคือคนมอญนั้นจะเรียกขนมจีนว่า"คนอม"เฉยไม่ใช่คนอมจินเราจะพบได้จาก บทความต่างๆทั่วไปซึ่งกล่าวถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับความเป็นมาของคำ"คนอมจิน"ว่าขณะที่คนมอญกำลังท
⏩ประเภทของขนมจีน⏪ 1 ขนมจีนแป้งหมัก เป็นเส้นขนมจีนที่นิยมทำทางภาคอีสาน เสันมีสีคล้ำออกน้ำตาล เหนียวนุ่มกว่าขนมจีนแป้งสด และเก็บไว้ได้นานกว่า ไม่เสียง่าย การทำขนมจีนแป้งหมักเป็นวิธีการทำเส้นขนมจีนแบบ โบราณ ต้องเลือกใช้ข้าวแข็ง คือข้าวที่เรียกว่า ข้าวหนัก เช่น ข้าวเล็บมือนาง ข้าวปิ่นแก้ว ข้าวพลวง ถ้าข้าวยิ่งแข็งจะยิ่งดี เวลาทำขนมจีนแล้ว ทำให้ได้เส้นขนมจีนที่เหนียวเป็นพิเศษ นอกจากนี้แหล่งน้ำธรรมชาติก็เป็นสิ่งสำคัญ ต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จากคลองชลประทาน หรือน้ำบาดาล ไม่ควรใช้น้ำประปา เพราะเส้นขนมจีนจะเละทำให้จับเส้นไม่ใด้ ไม่น่ากิน 2 ขนมจีนแป้งสด ใช้วิธีการผสมแป้ง ขนมจีนแป้งสด เส้นจะมีขนาดใหญ่กว่าขนมจีนแป้งหมัก เส้นมีสีขาว อุ้มน้ำมากกว่า ตัวเส้นนุ่ม แต่จะเหนียวน้อยกว่าแป้งหมัก วิธีทำจะคล้ายๆกับขนมจีนแป้งหมัก แต่จะทำง่ายกว่าเพราะไม่ต้องแช่ข้าวหลายวัน และได้เส้นขนมจีนที่มีสีขาว น่ารับกิน การเลือกซื้อขนมจีนแป้งสด ควรเลือกที่ทำใหม่ๆ เส้นจับวางเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ เส้นขนมจีนไม่ขาด ดมดูไม่มีกลิ่นเหม็นแป้ง ไม่มีเมือก ขนมจีนแป้งสดจะเก็บได้ไม่นาน ควรนำมานึ่ง ก่อนกิน
⏩ วิธีการทำขนมจีนน้ำเงี้ยว ⏪ 1. ต้มน้ำ พอเดือด ใส่ซี่โครงหมู ต้มจนหมูนุ่ม 2. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด 3. ผัดเครื่องแกงกับน้ำมัน จนมีกลิ่นหอม ใส่เต้าเจี้ยวลงผัด คนให้เข้ากัน 4. ใส่หมูบด ผัดให้เข้ากัน จนหมูสุก 5. ใส่เครื่องแกงที่ผัดแล้วลงในน้ำหม้อต้มกระดูก ต้มจนเดือด ใส่ดอกงิ้ว ต้มต่อประมาณ 10 นาที 6. ใส่เลือดไก่ที่หั่นแล้ว คนให้ทั่ว 7. ใส่มะเขือเทศ 8. ตั้งไฟต่อประมาณ 5 นาที ยกลง นำขนมจีนใส่จาน ราดด้วยแกง (น้ำเงี้ยว) รับประทานกับเครื่องเคียง